ฟอร์มของจารุวรรณ ใจมั่น

 

ฟอร์มของกานต์ชุดา โชติบุรัสกร

 

ฟอร์มของ น.ส.ศุขกัญญา สุวรรณทา

 

วิธีการป้องกัน และการดำเนินการของประเทศไทย

                   . วิธีการกันป้อง และการดำเนินการของประเทศไทย

วิธีการป้องกันตนเองและผู้อื่นจากการแพร่ระบาดโควิด-19

    คุณสามารถลดโอกาสในการติดเชื้อหรือแพร่กระจายโควิด-19 ได้โดยใช้มาตรการป้องกันง่ายๆดังนี้

1. ทำความสะอาดมืออย่างสม่ำเสมอและทั่วถึงด้วยการถูด้วยแอลกอฮอล์หรือล้างด้วยสบู่และน้ำ

2. รักษาระยะห่างระหว่างตัวคุณกับคนอื่นอย่างน้อย 1 เมตร (3 ฟุต)

3.หลีกเลี่ยงการไปสถานที่แออัด 

4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสตาจมูกและปาก

5.ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณและคนรอบข้างปฏิบัติตามสุขอนามัยของระบบทางเดินหายใจที่ดี ซึ่งหมายถึงการปิดปากและจมูกด้วยข้อศอกหรือเนื้อเยื่อที่งอเมื่อคุณไอหรือจาม จากนั้นทิ้งทิชชู่ที่ใช้แล้วทันทีและล้างมือ

6.อยู่บ้านและแยกตัวเองแม้จะมีอาการเล็กน้อยเช่นไอปวดศีรษะมีไข้เล็กน้อยจนกว่าคุณจะหายดี มีคนนำเสบียงมาให้คุณ หากคุณจำเป็นต้องออกจากบ้านควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น

7.หากคุณมีไข้ไอและหายใจลำบากให้รีบไปพบแพทย์ แต่ให้โทรติดต่อทางโทรศัพท์ล่วงหน้าหากเป็นไปได้และปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ของคุณ

8. ติดตามข้อมูลล่าสุดจากแหล่งที่เชื่อถือได้เช่น WHO หรือหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่และระดับชาติของคุณ 

การใช้น้ำยาฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์อย่างปลอดภัย

   เพื่อป้องกันตัวเองและผู้อื่นจากโควิด-19 ให้ทำความสะอาดมือบ่อยๆและทั่วถึง ใช้เจลทำความสะอาดมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หากคุณใช้เจลทำความสะอาดมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ให้แน่ใจว่าคุณใช้และจัดเก็บอย่างระมัดระวัง

1. เก็บน้ำยาฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์ให้พ้นมือเด็ก สอนวิธีใช้เจลทำความสะอาดและตรวจสอบการใช้งาน

2.ใช้เหรียญขนาดพอดีมือ ไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์จำนวนมาก

3.หลีกเลี่ยงการสัมผัสตาปากและจมูกทันทีหลังจากใช้เจลทำความสะอาดมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เนื่องจากอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้

4. น้ำยาฆ่าเชื้อมือที่แนะนำเพื่อป้องกันโควิด-19 นั้นมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ดังนั้นจึงสามารถติดไฟได้ ห้ามใช้ก่อนจัดการกับไฟหรือปรุงอาหาร

5. ไม่ว่าในกรณีใด ๆ ให้ดื่มหรือปล่อยให้เด็กกลืนเจลทำความสะอาดมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ อาจเป็นพิษได้ 

6.จำไว้ว่าการล้างมือด้วยสบู่และน้ำก็มีผลกับโควิด-19 เช่นกัน

แหล่งที่มา / ข้อมูลอ้างอิง

https://www.who.int/emergencies/diseases/novel-coronavirus-2019/advice-for-public

แนวโน้มการระบาด Covid-19

จากภาพด้านบนพบว่า มีผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศไทย 3,438ราย ใน68จังหวัด และเพิ่มขึ้น7ราย

- เป็นผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 7 ราย

เสียชีวิตรวม 58 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)

รักษาหายป่วยแล้ว 3,279 ราย (95.38%) (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 2 ราย)

รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 101 ราย

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 7 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State quarantine โดยมีรายละเอียดดังนี้
- มาจากประเทศอินโดนีเซีย 1 ราย เข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร
- มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา 1 ราย เข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร
- มาจากประเทศอินเดีย 2 ราย เข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร
- มาจากประเทศรัสเซีย 2 ราย เข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร
- มาจากประเทศบังกลาเทศ 1 ราย เข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร

แนวโน้มการระบาด Covid 19

ในวันที่ 5 กันยายน 2563

- อินเดีย ยอดสะสมทะลุ 4 ล้านรายแล้วในวันนี้ โดยเส้นกราฟผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงโค้งขึ้น ล่าสุดรายงานสถิติสูงที่สุดอีกครั้งที่ 87,115 ราย คาดว่าอีกไม่เกิน 1 สัปดาห์อินเดียจะมียอดผู้ติดเชื้อสะสมแซงหน้าบราซิล

- ฝรั่งเศสรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ทำสถิติสูงที่สุดของการติดเชื้อระลอกที่สองที่ 8,975 ราย ซึ่งนับว่าสูงมากกว่าการติดเชื้อในระลอกแรก (7,578 ราย เมื่อวันที่ 31 มี.ค.63) โดยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้น่าจะมาจากการเปิดโรงเรียนเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ทำให้เมื่อวานนี้ฝรั่งเศสสั่งปิดโรงเรียนกว่า 22 แห่งทั่วประเทศแล้ว

- ฟิลิปปินส์รายงานยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงที่สุดในอาเซียนวันนี้ที่ 3,714 ราย โดยมียอดสะสมที่ 232,072 รายรั้งอันดับที่ 1 ในอาเซียนต่อเนื่อง ทั้งนี้ผู้ป่วยส่วนใหญ่กว่า 29% อยู่ในเมโทรมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์
- พม่าสถานการณ์น่าเป็นห่วง โดยมีการรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยประมาณ 75 รายต่อวันล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 รายรวม 7 รายแล้ว

ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)

และติดตามสถานการณ์โควิด19 ได้ที่นี่👇

https://covid19.workpointnews.com/